
แค่เงินซื้อข้าวยังไม่มี!

บ้าน ‘รุ่ง สุริยา’ รู้สึกน้อยใจคนลืมหน้า จากนักร้องดังสู่คนขายตรงวัย 53 ปี

อยู่วงการเพลงมานานยาวนานหลายปี และก็มีผลงานเพลงโด่งดังมีคนรักคลับทั่วประเทศจนได้รับสมญานาม ‘สุภาพบุรุษลูกทุ่ง’ อย่าง ‘รุ่ง สุริยา’

นักร้องชายหนุ่มจากจังหวัดพิษณุโลก ที่พลิกชีวิตจากคนเดินดินจนกลายมาเป็นนักร้องลูกทุ่งโด่งดัง มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย

แต่ว่าใครจะทราบว่า มีช่วงหนึ่งในชีวิตของ ‘รุ่ง สุริยา’ ที่พลิกผันจากเคยเป็นดาวสู่ดิน ชื่อเสียงไม่ดังเหมือนในสมัยก่อน มิตรรักแฟนเพลงลืมหน้า

ไม่มีงาน ขาดเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว หลังอยู่วงการมา 20 ปี รวมทั้งหายไปจากวงการอยู่นานยาวนานหลายปี จำเป็นต้องผันตัวไปเป็นพนักงานขายตรง

“เข้าวงการตั้งแต่อายุ 17 ปี และเข้ามาโดยการประกวดร้อง เดินสายแข่งขัน ทางบ้านมีญาติ 7 คนแล้วเราก็เป็นคนเล็กของบ้าน

พี่ๆก็จบเพียงแค่ป.4-ป.6 แล้วเขาก็ต้องการที่จะให้น้อง เป็นเสาหลักของครอบครัว เขาก็ช่วยเหลือกันทำงานและก็ส่งเราเรียน ขณะที่เรียน

ก็ไม่คิดว่าเราจะมาสายนี้หรอก แต่ว่าอาจเป็นเพราะเหตุว่าเขาคงคิดไว้แล้ว ก็ได้ไปแข่งขันแล้วก็เข้ามาในวงการแต่ยังไม่ประสบคาวมเร็จ

จะต้องย้อนไปในระหว่างที่อยู่คาเฟ่ ก็ไปเช่าห้องอยู่ ไม่มีเงินขนาดจะต้องไปเซ็นมาม่ามากิน คือติดเขาไว้ก่อน พอเงินเดือนออกแล้วค่อยเอามาใช้เขา

มาร้องคาเฟ่ก็ไม่มีอะไรดียิ่งขึ้น แล้วบังเอิญว่ามีเพื่อนมาชวนไปทำขายตรง ในเวลานั้นก็ทำอยู่ 2-3 เดือน ก็สำเร็จในระดับนึงนะ

แต่มันก็มีปัญหาอีก เสร็จแล้วความรู้สึกเราก็เลยเป็นลบ ด้วยเหตุว่าเป็นแบบนี้เราก็ไม่ทำแล้ว จากนั้นผมร้องเพลงอยู่ที่จังหวัดสระบุรี

ก็มีอาจารย์เพลงครับ คือ ‘ครูพร พนาไพร’ ไปนั่งกินข้าว ระหว่างนั้นผมก็ขึ้นไปขับร้อง ครูก็บอกเด็กให้ไปเรียกนักร้องคนนั้นมา ผมก็อึ้งครับในขณะนั้น

เรียกผมมาและจากนั้นก็บอกว่าคุณครูเป็นนักแต่งเพลงนะ กำลังหานักร้องอยู่ และก็ให้ผมร้องเพลงลูกทุ่ง ผมก็นึกในใจถ้าอย่างนั้นเข้าทางเรา พอร้องก็โดนเลย

คุณครูมีเพลง 2 เพลง ให้ผมร้องนั่นคือ ‘วอนพ่อตากสิน’ และก็ ‘รักจริงหวังแต่ง’ ซึ่งทำให้ผมดังมาก เป็นเพลงสร้างชื่อเลย

เราก็มาไตร่ตรอง แล้วเราจะหาเลี้ยงครอบครัวอย่างไร เราไม่มีเสียงร้อง ก็คิดได้ว่าจำเป็นต้องหยุด เดี๋ยวนี้ก็ผ่านมา 7 ปีแล้วนะครับ

มองย้อนกลับไป มันก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เขาเรียกว่าถ้าหากมองไม่เห็นทุกข์ ก็มองไม่เห็นธรรม บอกกับตัวเองเลยว่าผิดพลาดมาตลอด เป็นสิ่งที่เตือนตนตลอดระยะเวลาสำหรับการทำงาน”