


นักแสดงอาวุโสมากความสามารถอย่าง “นิรุตติ์ ศิริจรรยา” วัย 75 ปี ที่หลายคนอาจจะรู้หรือยังไม่รู้ว่า ก่อนหน้าที่จะเข้าสู่วงการบันเทิงนั้น อาหนิงได้จบการศึกษาประเทศออสเตรเลียและประเทศมาเลเซีย ก่อนที่เข้าทำงานในสายการบินต่างๆเรียกได้ว่าเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมาย ก่อนที่จะเบนสายมาทำงานในวงการบันเทิง


นับตั้งแต่วันที่เข้าวงการวันแรกๆจนถึงวันนี้ “หนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา” ยังคงเป็นดาวค้างฟ้า เป็นที่ชื่นชอบของแฟนคลับด้วยฝีมือความเป็นอาชีพในการแสดงและมีวินัยในการทำงาน พูดได้ว่าประสบความสำเร็จในงานด้านวงการบันเทิง และเป็นอีกหนึ่งนักแสดงผู้ทรงเกียรติทรงคุณค่าอีกหนึ่งท่านของวงการบันเทิงไทยอีกด้วย แต่ชีวิตคนเราคงไม่สมบูรณ์แบบไปซะทุกเรื่อง เพราะด้านความรักของ อาหนิง ในชีวิตจริงนั้นกลับกลายความรักที่จบแบบแฮปปี้เหมือนในละคน เพราะถึงแม้ถึงคราวที่ต้องจากกัน ก็ไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำลากันแม้แต่ประโยคเดียว อาหนิง เผยว่า การแต่งงานครั้งแรกก็แต่งกับคนในวงการเดียวกันนี่แหละ เพราะเล่นละครเรื่องเดียวกัน เกิดความชอบพอกันจึงตัดสินใจพากันไปจดทะเบียนสมรส แต่สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จกับความรักในครั้งนี้ ก็เลยกลับมาเป็นโสดอีกครั้ง จนกระทั่งได้มาเจอกับ อ.อรวรรณ ทำให้อาหนิงได้รู้จะกับความรักอีกครั้ง โดยรักครั้งนี้ยาวนาน 10 กว่าปี แต่จะต้องจากกันโดยไม่ได้ร่ำลา รู้สึกว่ามันหนักหนาเกินไป จากคนที่ไม่เคยห่างกันไกล ไปไหนต้องไปด้วยกันตลอด



จุดนี้เองทำให้อาหนิงเลือกปฏิเสธการรับงานทุกชนิด ขอพักใจลืมเรื่องราวทุกอย่างที่ยังอยู่ในความทรงจำ ย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกา “เวลาจะช่วยเยียวยาให้ทุกอย่างได้เอง” ซึ่งอาหนิงบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง แต่อยู่ที่ว่าใครจะใช้เวลามากน้อยแค่ไหน สำหรับอาหนิงนั้น ใช้เวลา 6 ปีกว่า ก่อนจะตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ประเทศไทย พร้อมกับเข้าใจแล้วก็เรียนรู้สัจธรรมของชีวิตในเวลาเดียวกัน หลายครั้งเวลาที่มีอะไรในใจก็ยังไปคุยกับ อ.อรวรรณ อยู่ที่สวนหน้าบ้านมันก็ทำให้สบายใจขึ้น จนเวลานี้เข้าใจแล้วว่าความสุขที่แท้จริงของชีวิตนั้นคืออะไร อาหนิงยังได้เผยถึงความสุขที่ค้นพบในตอนนี้อีกด้วยว่า “ความสุขที่ผมค้นพบได้ในตอนนี้ คือ ที่นี่ ที่บ้านแห่งนี้ จุดที่เรียกได้ว่าเป็นจุดที่พอเพียงของผมแล้ว ได้ทำงานที่ชอบ และได้ใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ตัวเองรัก เสร็จจากงานก็เดินทางกลับมาพักที่บ้าน อยู่กับความเรียบง่ายของธรรมชาติ อยู่กับอิสระที่ใจเราต้องการ เพราะผมเชื่อว่า ทุกอย่างที่แวดล้อมตัวเราอยู่นั้น นั่นคือความสุขที่เราสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง”
